เมื่อวันศุกร์ที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา กระทรวงพลังงานกรีซและไซปรัสได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อผลักดันโครงการ Great Sea Interconnector (GSI) เป็นโครงการวางสายเคเบิลไฟฟ้าใต้ทะเลที่เชื่อมโยงทวีปยุโรปกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก โดยจะเชื่อมโยงเครือข่ายส่งสัญญาณของยุโรปกับไซปรัส ซึ่งเป็นโครงการมูลค่า 9 พันล้านยูโร (2.12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และจะขยายไปยังอิสราเอลในภายหลัง
ผู้สนับสนุนโครงการกล่าวว่า หากโครงการนี้สำเร็จจะเป็นสายไฟฟ้าแรงสูงที่ “ยาวที่สุดในโลก” ซึ่งมีความยาว 1,240 กิโลเมตร (770.5 ไมล์) และความลึกที่สุดถึง 3,000 เมตร โดยโครงการดังกล่าวจะกลับมาดำเนินการอีกครั้งในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ทั้งนี้ ไซปรัสมีแหล่งก๊าซสำรองที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว แต่ยังไม่ถูกนำมาใช้งาน และยังคงต้องพึ่งพาเชื้อเพลิงน้ำมันเตาชนิดหนัก (Heavy Fuel Oil) ในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งมีต้นทุนสูงกว่าทวีปยุโรป
แม้จะไม่มีการโต้แย้งถึงความจำเป็นในการมีแหล่งพลังงานทางเลือกหรือ GSI ก็ตาม แต่รัฐบาลไซปรัสได้ชะลอโครงการดังกล่าว เนื่องจากต้องการคำชี้แจงเกี่ยวกับต้นทุนรวมของโครงการ ความสามารถในการดำเนินการ และหนี้สินใด ๆ อันเกิดจากความล่าช้าที่ไม่คาดคิด
ทั้งนี้กระทรวงต่าง ๆ ระบุว่าโครงการดังกล่าวมีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์สำหรับไซปรัส กรีซ และสหภาพยุโรป เนื่องจากจะเชื่อมโยงไซปรัสกับโครงข่ายไฟฟ้าของยุโรป อำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน และช่วยให้กรีซบรรลุเป้าหมายในการเป็นช่องทางการขนส่งพลังงานสะอาด
แหล่งอ้างอิงของข่าว / อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:
Cyprus signs MoU with Greece on ‘world’s longest’ subsea electric cable | Reuters