สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อัตราการเติบโตของกำลังการผลิตติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ในยุโรปลดลงถึง 4% ในปีนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นในระดับเลขสองหลักมาต่อเนื่องกันหลายปี ซึ่งทำให้สหภาพยุโรปเกิดความกังวลว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาดโดยการเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน และยุติการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลจากรัสเซียได้หรือไม่

          ด้านสมาคมอุตสาหกรรม SolarPower Europe เปิดเผยว่า กำลังการผลิตติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ในสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้นมากกว่า 40% ในปี 2022 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ในปี 2023 แต่ทว่าในปีนี้มีการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์กว่า 5 กิกะวัตต์ ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่เพิ่มขึ้นเพียง 4% จากกำลังการผลิตติดตั้งในปี 2023

          อย่างไรก็ตาม เพื่อบรรลุเป้าหมายพลังงานสะอาดในปี 2030 สหภาพยุโรปจำเป็นต้องเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ 70 กิกะวัตต์ต่อปี โดยมีการคาดการณ์ว่ายุโรปยังคงสามารถบรรลุเป้าหมายพลังงานแสงอาทิตย์ 816 กิกะวัตต์ภายในปี 2030 ซึ่งเพียงพอที่จะบรรลุเป้าหมาย European Green Deal ของยุโรป และเพิ่มขึ้นจาก 338 กิกะวัตต์ในปัจจุบัน แต่เป็นครั้งแรกที่สมาคมฯ ได้มีการปรับลดการคาดการณ์ตัวเลขการเติบโตของการใช้พลังงานหมุนเวียนในยุโรป

          ทั้งนี้ จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาในปี 2024 อยู่ที่ 12.8 กิกะวัตต์ ลดลงเกือบ 5 กิกะวัตต์ เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยสาเหตุเกิดจากราคาพลังงานที่ลดลงจากจุดสูงสุดในช่วงวิกฤตพลังงานของยุโรปเมื่อปี 2022 ส่งผลให้ผู้บริโภคไม่มีแรงจูงใจที่จะซื้อแผงโซลาร์เซลล์เพื่อลดค่าใช้จ่ายพลังงานในครัวเรือนหรือธุรกิจ ซึ่งก็เป็นครั้งแรกในทศวรรษนี้ที่การลงทุนในโครงการโซลาร์เซลล์ของยุโรปก็ลดลงเช่นกัน

แหล่งอ้างอิงของข่าว / อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:

EU solar growth slows, raising fears for energy transition | Reuters