ในช่วงเวลาไม่กี่สัปดาห์ก่อนจะเกิดเหตุไฟไหม้บนแท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งในแองโกลา
เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ซึ่งคร่าชีวิตคนงาน 3 ราย และบาดเจ็บอีก 15 ราย นายไมค์ เวิร์ธ CEO ของเชฟรอน ได้แจ้งเตือนพนักงานถึงจำนวนเหตุการณ์เฉียดอันตรายที่เพิ่มขึ้น พร้อมเน้นย้ำ
กับพนักงานให้ปฏิบัติงานด้วยความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด แม้บริษัทจะอยู่ในช่วงเลิกจ้างพนักงานถึง 20% เพื่อลดต้นทุนจากราคาน้ำมันที่ตกต่ำที่สุดในรอบ 4 ปี
หลังเหตุการณ์ไฟไหม้บนแท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งในแองโกลา เคลย์ เนฟฟ์ ประธานฝ่ายการผลิตคนใหม่ของเชฟรอน ส่งข้อความผ่านวีดีโอถึงพนักงานเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568
ว่าพนักงานบางรายยังอยู่ระหว่างการรักษา และกำลังมีการสอบสวนหาสาเหตุของไฟไหม้ โดยเน้นย้ำว่ามีเหตุการณ์ใกล้เคียงกับอุบัติเหตุร้ายแรงเพิ่มขึ้นทั่วทั้งองค์กร ทั้งนี้ ในปี 2567 รายงานของเชฟรอนระบุสถิติผู้บาดเจ็บสาหัส 12 ราย และเสียชีวิต 1 ราย อย่างไรก็ตาม เชฟรอนได้จัดประชุมความปลอดภัยหรือ “safety stand-downs” ทั่วทั้งองค์กร
โดยหยุดการผลิตชั่วคราวเพื่อพูดคุยกับพนักงานเกี่ยวกับอุปสรรคและความกังวลในการทำงาน เนื่องจากความปลอดภัยของพนักงานสำคัญกว่าอัตราการผลิต และเน้นให้พนักงานมีสิทธิ์หยุดงานทันทีเมื่อเห็นความเสี่ยง และที่สำคัญคือ “ไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่าการที่ทุกคนได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย
แหล่งอ้างอิงของข่าว / อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: