กระทรวงพลังงาน Ministry of Energy

          ญี่ปุ่นตั้งเป้าหมายการนำระบบดักจับและกักเก็บคาร์บอน (CCS) มาเป็นส่วนสำคัญของกรอบพลังงานแห่งชาติที่จะเปิดตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยจะสามารถเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2030 ซึ่งกลุ่มธุรกิจหลักของญี่ปุ่นจำนวน 9 กลุ่มกำลังวางแผนดำเนินโครงการนำร่องการใช้ระบบ CCS โดยส่วนใหญ่ดำเนินการในญี่ปุ่นและมาเลเซีย

          ปัจจุบันมีการใช้ data centers และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) จำนวนมาก ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงเลือกที่จะรับมือกับการปล่อยคาร์บอนด้วยการจักจับและกักเก็บมากกว่าการเพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียน ทั้งนี้ เทคโนโลยี CCS เป็นการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากแหล่งกำเนิดในโรงงานและโรงไฟฟ้าโดยการฝังคาร์บอนไว้ในชั้นใต้ดินลึก

          ญี่ปุ่นได้ตั้งเป้าหมายที่จะกักเก็บคาร์บอน 6-12 ล้านตันต่อปี ภายในปี 2030 และเพิ่มเป็น 120-240 ล้านตันต่อปี ภายในปี 2050 ซึ่งคาดว่าจะช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบพลังงานคาร์บอนต่ำจนกว่าประเทศจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม นิวเคลียร์ และไฮโดรเจนได้มากขึ้น

          ทั้งนี้ กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น อยู่ระหว่างการแสวงหาเงินทุนในการดำเนินโครงการ CCS ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตของการใช้พลังงานมากและมีแหล่งปิโตรเลียมเก่าที่หมดอายุแล้วจำนวนมากสำหรับการกักเก็บคาร์บอน นอกจากนี้ บริษัท Mitsubishi Heavy Duty ซึ่งเป็นผู้ดำเนินโครงการ CCS ในรัฐเท็กซัส ได้ตั้งเป้าหมายที่ผลักดันโครงการกักเก็บคาร์บอนให้ได้ 16,000 – 32,000 ตันต่อวันภายในปี 2030 

แหล่งอ้างอิงของข่าว / อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:

Japan to commercialize carbon capture by 2030 as power demand grows | NIKKEI

ข่าวล่าสุด