JERA บริษัทผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้า LNG มากที่สุดเป็นอันดับสองของโลกรองจากจีน ได้ตกลงซื้อ LNG จากสหรัฐฯ รวมปริมาณสูงสุด 5.5 ล้านตันต่อปี ภายใต้สัญญาระยะยาว 20 ปี จาก 4 บริษัทของสหรัฐฯ เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพาแหล่งพลังงานในออสเตรเลีย โดยจะเริ่มส่งมอบในช่วงปี 2030
ทั้งนี้ การตกลงซื้อ LNG ปริมาณ 1.5 ล้านตันต่อปีจาก Sempra Infrastructure และอีก 1 ล้านตันต่อปีจาก Cheniere นั้น เป็นเพียงร่างข้อตกลงเบื้องต้นแบบไม่ผูกพัน (HOA) ในขณะที่ การตกลงซื้อ LNG ปริมาณ 1 ล้านตันต่อปีจาก Commonwealth LNG เป็นการลงนาม
ในข้อตกลงการซื้อขายที่ได้มีการลงนามมาก่อนหน้านี้แล้ว และสุดท้ายคือการตกลงรับซื้อ LNG ปริมาณ 2 ล้านตันต่อปีจาก NextDecade ซึ่ง JERA ได้เคยประกาศไว้เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
การดำเนินการครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของญี่ปุ่นในการรักษาความมั่นคงด้านพลังงาน พร้อมรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของศูนย์ข้อมูล โดยสอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ต้องการส่งออก LNG มากขึ้น โดย Doug Burgum รัฐมนตรีมหาดไทยของสหรัฐฯ กล่าวว่านี่คือการสร้างความมั่นคงให้กับพันธมิตรอย่างญี่ปุ่นและลดการพึ่งพาคู่แข่งทางภูมิรัฐศาสตร์ ในขณะที่ JERA ย้ำว่าการตัดสินใจการลงนามเกิดจากปัจจัยด้านต้นทุนและความยืดหยุ่นของ LNG ซึ่งจำเป็นต่ออนาคตพลังงานของญี่ปุ่น
หลังจากการจัดซื้อครั้งนี้ สัดส่วนการนำเข้า LNG ของ JERA จากสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นจาก 10% เป็นเกือบ 30% ขณะเดียวกันบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ที่ร่วมลงนามในข้อตกลงกับ JERA ต่างแสดง
ความยินดี และคาดหวังว่าข้อตกลงนี้จะช่วยผลักดันความคืบหน้าในการลงทุนโครงการ LNG ในสหรัฐฯ
แหล่งอ้างอิงของข่าว / อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:
Japan’s JERA agrees to buy US LNG to rebalance supply portfolio away from Australia | Reuters