เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บริษัทเชลล์ได้รับการอนุมัติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานไนจีเรีย ในการขายสินทรัพย์ทั้งบริเวณชายฝั่งและพื้นที่ น้ำตื้นมูลค่ากว่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้แก่ บลจ.เรนเนสซองซ์ ซึ่งการอนุมัติการขายสินทรัพย์ดังกล่าวนับเป็นจุดสิ้นสุดของการดำเนินงานในรอบเกือบศตวรรษของบริษัทเชลล์ในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซไนจีเรีย รวมทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของการถอนตัวครั้งใหญ่จากไนจีเรียของหลายบริษัทพลังงานสัญชาติตะวันตก อย่างเช่น บริษัท Exxon Mobil บริษัท Eni ของอิตาลี และบริษัท Equinor ของนอร์เวย์
โดยเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาบริษัทเชลล์ได้ขายสินทรัพย์ของตนให้กับ บลจ.เรนเนสซองซ์ แต่กลับถูกคณะกรรมการกำกับดูแลการผลิตปิโตรเลียมต้นน้ำของไนจีเรีย (Nigerian Upstream Petroleum Regulatory Commission) ขัดขวางไม่ให้ทำการขายไว้ในเดือนตุลาคม เนื่องจากคณะกรรมการฯ อ้างว่า บลจ.เรนเนสซองซ์ไร้ความสามารถในการจัดการสินทรัพย์ ซึ่งมีปริมาณน้ำมันกว่า 73 พันล้านบาร์เรล และก๊าซธรรมชาติ 56.27 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต
นอกจากนี้ บลจ.เรนเนสซองซ์ ยังได้กล่าวว่า การอนุมัติครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของข้อตกลงการประกาศซื้อขายสินทรัพย์ของเชลล์เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน บริษัทเชลล์ยังได้ประกาศว่าบริษัทลูกในไนจีเรียได้ตัดสินใจเรื่องการลงทุนแหล่งน้ำมัน Bonga North ซึ่งเป็นโครงการสำรวจและขุดเจาะปิโตรเลียมในน้ำลึกของไนจีเรียเรียบร้อยแล้ว โดยโครงการดังกล่าวจะช่วยรักษากำลังการผลิตน้ำมันและก๊าซใน Bonga ซึ่งจะเชื่อมต่อกับโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการ ถ่ายโอนและกักเก็บปิโตรเลียมของเชลล์ ที่บริษัทได้ถือหุ้นอยู่ถึงร้อยละ 55
แหล่งอ้างอิงของข่าว / อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:
Nigeria approves Shell’s $2.4 billion asset sale to Renaissance | Reuters