เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกร่วงลงอย่างรวดเร็ว โดยลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2565 สาเหตุสำคัญเกิดจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) มีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมรัฐมนตรี โดยกำหนดเพิ่มการผลิตเป็น 411,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนพฤษภาคมนี้ เพิ่มขึ้นจากแผนเดิมที่ 135,000 บาร์เรลต่อวัน
การตัดสินใจของ OPEC+ เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ประกาศมาตรการภาษีศุลกากรใหม่ โดยจัดเก็บขั้นต่ำร้อยละ 10 สำหรับสินค้านำเข้าส่วนใหญ่ และมีการจัดเก็บภาษีในอัตราที่สูงกว่าสำหรับสินค้าจากบางประเทศ อย่างไรก็ตาม การนำเข้าน้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์น้ำมันที่ผ่านการกลั่นจะได้รับการยกเว้นจากภาษีดังกล่าว
ทั้งนี้ ก่อนการประชุมของ OPEC+ ราคาน้ำมันได้ปรับลดลงแล้วประมาณร้อยละ 4 เนื่องจากความกังวลของนักลงทุนต่อแนวโน้มสงครามการค้าระดับโลก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการพลังงานในอนาคต ขณะเดียวกัน สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) ยังรายงานว่า คลังน้ำมันดิบในประเทศเพิ่มขึ้น 6.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ประเมินว่าจะลดลงประมาณ 2.1 ล้านบาร์เรล
แหล่งอ้างอิงของข่าว / อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:
Oil dives more than 6%, steepest in 3 years on tariffs, OPEC+ supply boost | OILPRICE