เมื่อวันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม 2567 ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงหลังจากที่ราคาพุ่งสูงขึ้นในช่วงก่อนหน้าเนื่องจากนักลงทุนกำลังกังวลถึงผลกระทบจากความเสียหายจากพายุเฮอริเคนซึ่งมีผลต่อการหยุดชะงักของการผลิตน้ำมัน รวมทั้งกรณีอิสราเอลโจมตีแหล่งน้ำมันของอิหร่าน โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ล่วงหน้าลดลง 39 เซ็นต์ หรือ 0.5% เหลือ 79.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสล่วงหน้าลดลง 32 เซ็นต์ หรือ 0.4% เหลือ 75.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

          อย่างไรก็ตาม เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 ต.ค. 67 ที่ผ่านมา ในสหรัฐฯ พายุเฮอริเคนมิลตันพัดเข้ามหาสมุทรแอตแลนติกหลังจากพัดผ่านพื้นที่ของรัฐฟลอริดา และได้คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 10 ราย และทำให้ผู้คนนับล้านไม่มีไฟฟ้าใช้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวมีนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่าอาจทำให้การบริโภคน้ำมันในบางพื้นที่ลดลง

          ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ได้พุ่งสูงขึ้นหลังจากที่อิหร่านยิงขีปนาวุธมากกว่า 180 ลูกเข้าโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าโรงงานน้ำมันของอิหร่านก็อาจจะถูกอิสราเอลโจมตีเพื่อเป็นการตอบโต้ แต่ทางอิสราเอลยังไม่ได้มีปฏิบัติการเพื่อโต้กลับแต่อย่างใด ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบยังคงทรงตัวตลอดทั้งสัปดาห์ในช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอลออกมากล่าวว่า หากอิสราเอลจะโจมตีอิหร่านเพื่อเป็นการตอบโต้แล้ว การโจมตีนั้นจะต้องรุนแรง แม่นยำ และคาดไม่ถึง

แหล่งอ้างอิงของข่าว / อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:

Oil eases though investors wary over potential Mideast supply disruption | Reuters