เมื่อวันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงหลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ตัดสินใจประกาศระงับการจัดเก็บภาษีนำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา ซึ่งเป็นผู้จัดหาน้ำมันรายใหญ่แก่สหรัฐฯ โดยราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเบรนท์ปรับตัวลดลง 41 เซนต์ หรือร้อยละ 0.5 ปิดที่ 75.55 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับลดลง 75 เซนต์ หรือร้อยละ 1 ปิดที่ 72.41 ดอลลาร์สหรัฐฯ

นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา และนางคลอเดีย เชนบาม ประธานาธิบดีเม็กซิโก กล่าวว่า พวกเขาตอบรับที่จะดำเนินการตามข้อเรียกร้องของทรัมป์ที่ขอให้มีการปรับปรุงมาตรการด้านความมั่นคงชายแดนเพื่อป้องกันปัญหาผู้อพยพและการลักลอบขนยาเสพติด ทั้งนี้ ทรัมป์ได้ประกาศระงับการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากแคนาดาเป็นเวลา 30 วัน ในอัตราภาษีร้อยละ 25 และสำหรับสินค้านำเข้าจากจีน ร้อยละ 10 มีผลบังคับตั้งแต่วันอังคารที่ 4 ก.พ.เป็นต้นไป   

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ ING กล่าวว่า แม้ว่าจะมีการระงับการจัดเก็บภาษี แต่แคนาดาก็ยังคงมีความเสี่ยงต่อสงครามการค้ากับสหรัฐฯ อยู่ เว้นแต่ว่าแคนาดาจะขยายการส่งออกน้ำมันไปยังปลายทางอื่นๆ นอกเหนือจากสหรัฐฯ ด้วยการสร้างท่อส่งน้ำมันจากแหล่งน้ำมันไปยังท่าเรือเพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับผู้ผลิตในแคนาดาให้มีศักยภาพในการส่งออกน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ  แต่ในปัจจุบัน การสร้างท่อส่งน้ำมันยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จและอาจใช้ระยะเวลาหลายปี ซึ่งเป็นอุปสรรคในการส่งออกน้ำมันไปยังจุดหมายปลายทางอื่นอยู่ ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัล ทรัมป์ วางแผนว่าจะเข้าพบหารือกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนภายในสัปดาห์นี้ เกี่ยวกับเรื่องอัตราภาษีนำเข้าจากจีนที่จะมีผลบังคับใช้ในวันอังคาร

แหล่งอ้างอิงของข่าว / อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:

Oil falls as Trump agrees to pause tariffs on Mexico, Canada | Reuters