เมื่อวันที่จันทร์ที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมาราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวเล็กน้อยของกิจกรรมการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน ซึ่งเป็นผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับสองของโลก พร้อมกับเกิดสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางจากการโจมตีของอิสราเอลต่อเลบานอน โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ล่วงหน้าอยู่ที่ 71.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสล่วงหน้าอยู่ที่ 68.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

          อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ความไม่แน่นอนจากการโจมตีระหว่างอิสราเอลและเลบานอน ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมัน ขณะที่การโจมตีทางอากาศในเลบานอนและความรุนแรงในซีเรียยังคงทวีความรุนแรงขึ้น เนื่องจากประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ประกาศจะกวาดล้างกลุ่มกบฏที่เข้ายึดเมืองอเลปโป

          นอกจากนี้ แม้ว่าราคาน้ำมันจะฟื้นตัวในสัปดาห์นี้ แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วราคาน้ำมันดิบเบรนท์ล่วงหน้าและราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสล่วงหน้าลดลงกว่า 3% เนื่องจากตลาดน้ำมันในภาพรวมคลายความกังวลในเรื่องความเสี่ยงด้านอุปทานจากความขัดแย้งระห  ว่างอิสราเอลและกลุ่ม        ฮิซบอลเลาะห์ และการคาดการณ์ว่าปี 2025 จะมีกำลังการผลิตน้ำมันส่วนเกิน ทังนี้ กลุ่ม OPEC+ ได้ประกาศเลื่อนการประชุมไปเป็นวันที่ 5 ธันวาคม 2567 เพื่อประเมินผลกระทบจากนโยบายด้านภาษีและนโยบายด้านพลังงานของสหรัฐฯ รวมถึงประเมินมาตรการการตอบโต้จากประเทศจีนที่อาจส่งผลกระทบต่อปริมาณความต้องการพลังงานของโลก

แหล่งอ้างอิงของข่าว / อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:

Oil inches up on upbeat China data, shaky Israel-Lebanon ceasefire | Reuters