• ราคาน้ำมันโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 1.5% ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ หลังจากสหรัฐฯ และจีนตกลงชะลอการขึ้นภาษีนำเข้าเป็นการชั่วคราว จุดประกายความหวังว่าจะมีการยุติสงครามการค้าระหว่างสองประเทศยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจ โดยน้ำมันดิบเบรนท์ปิดที่ 64.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และน้ำมัน WTI ปิดที่ 61.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยความตึงเครียดของสงครามการค้าที่ลดลงในครั้งนี้ ส่งผลให้ตลาดหุ้น ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น  
• นอกจากปัจจัยด้านสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯแล้ว ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นยังเป็นผลสืบเนื่องจากการลดลงของกำลังการผลิตในหลายประเทศ เช่น อิรักที่มีแนวโน้มลดการส่งออกลงเหลือ 3.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน และการหยุดผลิตชั่วคราวของบริษัท Equinor ในแหล่ง Johan Castberg ของนอร์เวย์ รวมถึงการส่งออกน้ำมันที่ลดลงในทะเลดำและเม็กซิโก อย่างไรก็ตาม OPEC ยังคงเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะซาอุดีอาระเบียที่มองว่าความต้องการใช้น้ำมันโลกจะเพิ่มขึ้น หากความขัดแย้งทางการค้าสิ้นสุดลง
• ขณะเดียวกัน การเจรจาทางการเมืองระหว่างประเทศยังส่งผลต่อทิศทางราคาน้ำมัน โดยสหรัฐฯ กำลังเดินหน้าหารือกับอิหร่านในประเด็นโครงการนิวเคลียร์ หากประสบผลสำเร็จอาจนำไปสู่การยกเลิกคว่ำบาตรและเปิดทางให้อิหร่านส่งออกน้ำมันเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การเจรจาสันติภาพระหว่างยูเครนและรัสเซีย ที่มีสหรัฐฯ เป็นคนกลาง อาจช่วยให้รัสเซียกลับมาส่งออกน้ำมันได้มากขึ้นอีกครั้ง โดยล่าสุด ประธานาธิบดียูเครนก็ได้แสดงความพร้อมที่จะเจรจากับผู้นำรัสเซียในตุรกีตามคำเรียกร้องของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ด้วย

แหล่งอ้างอิงของข่าว / อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:

Oil prices seetle up at 2- week high as US, China ease tariffs | Reuters