ข้อมูลจาก Ember ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยด้านพลังงาน แสดงให้เห็นว่า ฟิลิปปินส์แชงหน้าอินโดนีเซียและจีน ขึ้นเป็น 1 ใน 10 ประเทศที่พึ่งพาเชื้อเพลิงถ่านหินสำหรับผลิตไฟฟ้ามากที่สุดในโลก โดยในปี 2023 สัดส่วนของถ่านหินในการผลิตไฟฟ้าของประเทศเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 15 แม้ว่าฟิลิปปินส์จะตั้งเป้าหมายลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงถ่านหินในการผลิตไฟฟ้าลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2030
โดยข้อมูลจาก Ember ระบุว่า โคโซโวมีการพึ่งพาถ่านหินสูงที่สุดในปี 2023 คิดเป็น 88.21% ของไฟฟ้าที่ผลิตได้มาจากเชื้อเพลิงที่ก่อมลพิษ ตามด้วยมองโกเลีย แอฟริกาใต้ อินเดีย และคาซัดสถาน โดยฟิลิปปินส์อยู่ในอันดับที่ 7 ซึ่งถ่านหินคิดเป็น 61.92% ของเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดในปี 2023 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 59.07% ในปี 2022 ถือเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดของการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลนี้ตั้งแต่ปี 2016
อย่างไรก็ตาม ทั้งอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ค่อนข้างล้าหลังกว่าประเทศอื่นในอาเซียนในด้านการใช้เทคโนโลยีผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งฟิลิปปินส์ต้องการเพิ่มการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์เป็นสองเท่าและเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานลมเป็นสามเท่าในปี 2030 จากระดับปัจจุบัน นอกเหนือจากการเร่งสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลม โดยที่สองประเทศยังคงประสบปัญหาในการพัฒนาโครงการด้านพลังงานสะอาด เนื่องจากต้นทุนในการก่อสร้างโครงการยังสูงอยู่
แหล่งอ้างอิงของข่าว / อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:
Philippines’ dependency on coal-fired power surpasses China, Indonesia | Reuters