เมื่อวันพุธที่ 9 ตุลาคม 2567 ทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency :IEA) เปิดเผยว่า การเติบโตของพลังงานหมุนเวียนมีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายครึ่งหนึ่งหรือร้อยละ 50 ของความต้องการใช้ไฟฟ้าภายในสิ้นทศวรรษนี้ แต่ยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายของสหประชาชาติในการเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนเป็นสามเท่าเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ ซึ่งจากรายงานพลังงานหมุนเวียนของ IEA ประจำปี 2024 ได้ระบุว่าโลกมีการตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนมากกว่า 5,500 กิกะวัตต์ (GW) จนถึงปี 2030 ซึ่งถือเป็นสามเท่าของการปริมาณกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นระหว่างปี 2017 ถึง 2023
อย่างไรก็ตาม จากรายงานระบุว่า การเพิ่มขึ้นของกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนดังกล่าวนี้มีปริมาณเท่ากับกำลังการผลิตไฟฟ้าในปัจจุบันของจีน สหภาพยุโรป อินเดีย และสหรัฐอเมริการวมกัน แต่ยังไม่เพียงพอที่จะบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ในการประชุมสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติในการประชุม COP28 และเพื่อให้โลกสามารถเพิ่มกำลังการผลิตของพลังงานหมุนเวียนเป็นสามเท่าได้
โดยหากต้องการบรรลุเป้าหมาย Triple RE ดังกล่าว รัฐบาลจำเป็นต้องเพิ่มการบูรณาการในด้านพลังงานหมุนเวียนเข้ากับโครงข่ายไฟฟ้า โดยจำเป็นจะต้องมีการสร้างและปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้า ระยะทาง 25 ล้านกิโลเมตร (15.5 ล้านไมล์) และเพิ่มความจุในการกักเก็บไฟฟ้าให้ได้ 1,500 กิกะวัตต์ภายในปี 2030
นอกจากนี้ ยังต้องตั้งเป้าหมายการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ให้ได้ 80% ของการเติบโตกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนภายในปี 2030 และตั้งเป้าหมายการเพิ่มสัดส่วนพลังงานลมให้ขยายตัวเป็นสองเท่าภายในปี 2030 เมื่อเทียบกับปี 2017-2023 ทั้งนี้ คาดว่าประเทศต่าง ๆ จำนวน 70 ประเทศ ซึ่งคิดเป็น 80% ของกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนทั่วโลกจะบรรลุเป้าหมายด้านพลังงานหมุนเวียนของประเทศตนเองภายในปี 2030
แหล่งอ้างอิงของข่าว / อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:
Renewable energy to fall short of UN goal to triple by 2030, IEA says | Reuters