กระทรวงพลังงาน Ministry of Energy

ซาอุดิอาระเบียมีแนวโน้มที่จะเผาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นสำหรับการผลิตไฟฟ้าในช่วงฤดูร้อนปีนี้ เนื่องจากต้นทุนของน้ำมันเตา (fuel oil) ที่เพิ่มสูงขึ้นรวมถึงได้รับการผ่อนคลายข้อจำกัดจาก OPEC+ ให้สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ โดยบริษัทวิจัย Wood Mackenzie คาดการณ์ว่าจะสามารถผลิตได้ถึงวันละประมาณ 465,000-470,000 บาร์เรล ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ขณะที่บริษัท FGE คาดว่าการใช้จะอยู่ที่ 423,000-428,000 บาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้ ความต้องการไฟฟ้าที่สูงขึ้นในช่วงหน้าร้อนจากการใช้เครื่องปรับอากาศ ทำให้ภูมิภาคตะวันออกกลางหันมาใช้ทั้งน้ำมันดิบและน้ำมันเตาในการผลิตไฟฟ้าภายในประเทศ

ถึงแม้การเพิ่มการผลิตของ OPEC+ ทำให้ตลาดกังวลเรื่องอุปทานที่ล้นเกินตลาด แต่วิธีของซาอุฯ ในการเผาน้ำมันดิบภายในประเทศอาจช่วยบรรเทาผลกระทบนี้ได้ นักวิเคราะห์จาก Vortexa    มองว่า ซาอุฯ อาจมีแรงจูงใจในการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นโดยไม่ส่งออกแต่จะใช้ภายในประเทศจำนวนมาก ในส่วนราคาน้ำมันเตาที่สูงนั้น ทำให้ลดการใช้งานลงรวมถึงลดการนำเข้าน้ำมันเตาจากรัสเซียอีกด้วย 

ปัจจุบัน ซาอุดิอาระเบียผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติเป็นหลัก ตามด้วยน้ำมัน และมีสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้เริ่มลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียน และขยายการผลิตก๊าซจากแหล่ง Jafurah ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดการใช้น้ำมันดิบในอนาคต โดย Wood Mackenzie คาดว่าในปี 2025 ปริมาณการเผาน้ำมันจะลดลงจากการเปิดใช้โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหม่ 6 กิกะวัตต์ และการเริ่มดำเนินการของแหล่งก๊าซ Jafurah ขณะที่ Rystad Energy คาดว่าซาอุฯ จะลดการใช้น้ำมันดิบและหันมาใช้ก๊าซมากขึ้นภายในปี 2030

แหล่งอ้างอิงของข่าว / อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:

Saudi poised to increase summer crude burn for power as fuel oil becomes costly | Reuters

ข่าวล่าสุด