กระทรวงพลังงาน Ministry of Energy

          บริษัทปิโตรเลียมรายใหญ่ Shell ได้ปรับลดการคาดการณ์กำลังการผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) สำหรับไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 และประมาณการณ์ว่าผลประกอบการการซื้อขายน้ำมันและก๊าซจะลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยที่บริษัทยังประกาศว่าจะมีการบันทึกขาดทุนหลังหักภาษี มูลค่า 1.5 ถึง 3 พันล้านดอลลาร์ รวมถึงขาดทุนสูงสุด 1.2 พันล้านดอลลาร์ในธุรกิจด้านพลังงานหมุนเวียน เนื่องจากมูลค่าสินทรัพย์ของบริษัทในยุโรปและอเมริกาเหนือ การตัดสินใจครั้งนี้สอดคล้องกับการปรับกลยุทธ์ล่าสุดของ Shell ภายใต้การนำของซีอีโอ วาเอล ซาวาน ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มกำไรโดยการลดการลงทุนในโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่ง

          Shell มีผลกำไรลดลงตลอดปี 2024 หลังจากที่บริษัทเคยทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อสองปีก่อน เนื่องจากในช่วงนั้น ราคาพลังงานมีเสถียรภาพและมีการชะงักของความต้องการน้ำมัน ทั่วโลก นอกจากนี้ Shell ซึ่งเป็นผู้ค้าก๊าซ LNG รายใหญ่ที่สุดในโลก ระบุว่าผลประกอบการซื้อขายในแผนกนี้ลดลงอย่างมากในไตรมาสที่ 4 หลังจากสัญญาประกันความเสี่ยงที่จัดทำขึ้นในปี 2022 หมดอายุลง ซึ่งเป็นประกันที่มีไว้เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการสูญเสียการผลิตจากกรณีที่รัสเซียทำสงครามกับยูเครน

          แม้จะมีความท้าทายเหล่านี้ นักวิเคราะห์จาก RBC Capital Markets ได้ให้ความเห็นว่า ปริมาณการซื้อขายที่ลดลงและผลการดำเนินงานในหลายแผนกที่ลดลงของบริษัท Shell จะไม่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น ถึงแม้ว่าราคาหุ้นในปัจจุบันปรับลดลงลดลง 1.5% หลังการประกาศนี้ โดยที่ Shellและบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานอื่นๆ เช่น Exxon Mobil ก็ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทาย และยังคงต้องมีการปรับตัวเพื่อเข้าสู่ตลาดพลังงานที่มีเสถียรภาพมากขึ้นหลังจากเกิดความผันผวนของตลาดก๊าซธรรมชาติยาวนานหลายปีที่เกิดจากปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์และปัญหาในห่วงโซ่อุปทานของการผลิต

แหล่งอ้างอิงของข่าว / อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:

Shell warns of weaker fourth quarter LNG, oil trading | Reuters

ข่าวล่าสุด