วันที่ 25 มีนาคม 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานถึงกำหนดการเยือนเกาหลีใต้ของตัวแทนจากรัฐอลาสก้าภายใต้การนำของผู้ว่าการ ไมค์ ดันเลวี่ และเจ้าหน้าที่พลังงาน ท่ามกลางความคาดหวังในการหารือกับพันธมิตรของสหรัฐฯ ในเอเชียเพื่อฟื้นโครงการก๊าซธรรมชาติที่หยุดชะงัก ซึ่งได้รับการโปรโมตโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเกาหลีใต้นั้น เป็นผู้ส่งออกเหล็ก รถยนต์ และแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าให้กับสหรัฐฯ และกำลังเตรียมตัวรับแผนของสหรัฐฯที่จะกำหนดอัตราภาษีที่เข้มงวด

การเดินทางเยือนเกาหลีใต้ครั้งนี้ มีกำหนดการหารือเกี่ยวกับการขยายความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างสองประเทศ โดยจะมีการพบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีใต้และผู้นำจากธุรกิจใหญ่  สำหรับการหารือในด้านอุตสาหกรรมหลัก เช่น พลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน และการผลิตขั้นสูง ซึ่งทรัมป์พยายามที่จะส่งเสริมโครงการนี้และเรียกร้องให้เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และไต้หวันเข้าร่วม ซึ่งถือเป็นลูกค้าที่มีศักยภาพในการขนส่งก๊าซผ่านท่อ 1,300 กิโลเมตร (800 ไมล์) โดยเกาหลีใต้ได้กล่าวแล้วว่าจะมีส่วนร่วมในการหารือเกี่ยวกับโครงการนี้อย่างแข็งขัน

นอกจากนี้ ทรัมป์ที่ได้สั่งให้ทีมงานของเขาจัดทำแผนภาษีตอบโต้ภายในต้นเดือนเมษายน 2568 โดยอัตราภาษีเฉลี่ยของเกาหลีใต้นั้นสูงกว่าระดับที่สหรัฐฯ กำหนดถึงสี่เท่า อย่างไรก้ตามเกาหลีใต้ได้โต้แย้งคำกล่าวของทรัมป์ โดยกล่าวว่า อัตราภาษีที่มีผลจริงของประเทศต่อการนำเข้าจากสหรัฐฯ อยู่ที่ 0.79% เนื่องจากเกือบทั้งหมดของภาษีการนำเข้าได้ถูกยกเลิกตามข้อตกลงการค้าเสรีที่เคยลงนามในปี 2550

แหล่งอ้างอิงของข่าว / อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:

South Korea hosts Alaska governor, energy team amid talk of gas pipeline | Reuters