กระทรวงพลังงาน Ministry of Energy

  • กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ (DOE) ได้จัดสรรงบประมาณกว่า 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็กแบบโมดูลาร์ (SMRs) สู่การใช้งานจริง โดยโครงการนี้เริ่มต้นเมื่อเดือนตุลาคม 2567 ภายใต้รัฐบาลไบเดน แต่ได้รับการทบทวนใหม่เมื่อเดือนมีนาคม      ที่ผ่านมา เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งตัดข้อกำหนดเรื่องผลประโยชน์ต่อชุมชนออก 
  • โครงการดังกล่าว มุ่งเน้นการพัฒนาเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์รุ่นใหม่ Generation III+  ที่มีขนาดเล็กลง โดยใช้เทคโนโลยีที่ปรับปรุงจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แบบเดิม อาทิ การใช้น้ำธรรมดา (light water) เป็นสารหล่อเย็น และการใช้เชื้อเพลิงจากยูเรเนียมเสริมสมรรถนะต่ำที่มีปริมาณไอโซโทป      U-235 น้อยกว่า 5% รวมทั้งกำลังการผลิตต่อหน่วยต้องอยู่ระหว่าง 50 ถึง 350 เมกะวัตต์ โดยเน้นการผลิตสำเร็จรูปจากโรงงาน เพื่อลดต้นทุนและระยะเวลาก่อสร้าง โดยเป้าหมายคือให้สามารถใช้งานได้ภายในช่วงทศวรรษ 2030
  • ถึงแม้ปัจจุบันจะมีการลงทุนทั่วโลกนับพันล้านดอลลาร์ แต่ SMR ก็ยังคงอยู่ในสถานะ “อีก 5-10 ปีข้างหน้า” มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยยังไม่มีโครงการใดในสหรัฐฯ ที่เริ่มก่อสร้างได้จริง โครงการบางแห่งถูกยกเลิกเพราะปัญหาทางการเงิน บางแห่งยังติดอยู่ในขั้นตอนก่อนการออกใบอนุญาต หรือรอความคืบหน้าจากต่างประเทศเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน แม้ว่าโครงการในแคนาดาและจีนจะก้าวหน้ากว่า แต่ก็ยังไม่มีเครื่องปฏิกรณ์ที่จะสามารถเปิดใช้งานจริง ดังนั้นเงินทุนรอบใหม่จาก DOE ในครั้งนี้ จึงเป็นบททดสอบสำคัญว่าเทคโนโลยี SMRs จะสามารถก้าวข้ามอุปสรรคเดิม ๆ และเข้าสู่การใช้งานเชิงพาณิชย์ได้หรือไม่

แหล่งอ้างอิงของข่าว / อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:

U.S. Pushes $900M for Small Modular Reactors A revemped Biden-era DOE program may not be enough to make SMRs reality | IEEE Spectrum

ข่าวล่าสุด