• สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานถึง การบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ซึ่งล่าสุด  ได้มีการเผยแพร่กฎระเบียบและนโยบายของประเทศต่าง ๆ ที่สหรัฐฯ มองว่าเป็นอุปสรรคทางการค้าต่อตนเอง โดยรายงานประจำปี National Trade Estimate Report ของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ซึ่งรวบรวมอุปสรรคทางการค้าต่างประเทศของสหรัฐฯนั้น ได้ระบุอัตราภาษีเฉลี่ยสำหรับประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ และอุปสรรคทางการค้าที่มิใช่ภาษี (non-tariff barriers) ซึ่งรวมถึงกฎระเบียบด้านความปลอดภัยทางอาหารที่มีข้อบังคับมากเกินไป ข้อกำหนดด้านพลังงานหมุนเวียน และกฎระเบียบเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ
• มาตรการภาษีตอบโต้ของทรัมป์ ซึ่งคาดว่าจะประกาศในวันพุธที่ 2 เม.ย. นี้ มีเป้าหมายเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมในการเรียกเก็บภาษีจากประเทศต่าง ๆ ที่กำหนดอัตราภาษีที่สูงในสินค้าบางชนิด ซึ่งส่งผลให้การส่งออกของสหรัฐฯ ขาดดุล โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ได้ประกาศภาษีร้อยละ 25 สำหรับการนำเข้ารถยนต์จากสหรัฐฯ เพื่อฟื้นฟูการผลิตรถยนต์ในสหรัฐฯ 
• ด้านนายปีเตอร์ นาวาโร ที่ปรึกษาด้านการค้าของทำเนียบขาวกล่าวว่า ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)     ที่ ประเทศในสหภาพยุโรปเรียกเก็บจากสหรัฐฯ นั้น เป็นเสมือนภาษีเพิ่มและเป็นเงินอุดหนุน   การส่งออกให้แก่ยุโรป เมื่อมีการคืนเงินสำหรับรถยนต์ที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ ในขณะที่รายงานของ USTR ไม่ได้ระบุว่าภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ของยุโรปเป็นอุปสรรคทางการค้าของสหรัฐฯ แต่กลับเน้นไปที่อุปสรรคจากภาษีบริการดิจิทัลและกลไกการปรับขอบเขตคาร์บอนใหม่ของสหภาพยุโรป
• อย่างไรก็ตาม รายงานได้ระบุภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และการบังคับใช้ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อ         การนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ ในบางประเทศ เช่น อาร์เจนตินา เม็กซิโก และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมทั้งระบุว่า การใช้ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ของจีนในการส่งเสริมการส่งออกสินค้าบางประเภทนั้นเป็นการให้เงินอุดหนุนประเภทหนึ่งด้วย

แหล่งอ้างอิงของข่าว / อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:

USTR releases trade barriers report ahead of Trump’s reciprocal tariffs | Reuters