ธนาคารโลก (World Bank) ได้มีการทบทวนยุทธศาสตร์ใหม่ โดยเห็นชอบให้ยุติการระงับการสนับสนุนโครงการพลังงานนิวเคลียร์ในประเทศกำลังพัฒนา เพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้า
ที่เพิ่มขึ้นในอนาคต จากที่ผ่านมาซึ่ง World Bank ได้ระงับการสนับสนุนโครงการนิวเคลียร์ตั้งแต่   ปี 2013 และระงับการสนับสนุนโครงการน้ำมันและก๊าซตั้งแต่ปี 2019 

ประธาน World Bank นายอาเจย์ บังกา ระบุว่าคณะกรรมการธนาคารต่างเห็นพ้องให้ยุติการระงับการสนับสนุนโครงการพลังงานนิวเคลียร์ในประเทศกำลังพัฒนา อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการยังไม่สามารถมีข้อสรุปต่อการยุติการระงับการสนับสนุนโครงการก๊าซธรรมชาติ
ในส่วนต้นน้ำได้ เนื่องจากหลายประเทศ รวมทั้งเยอรมนี ฝรั่งเศส และ สหราชอาณาจักร ยังมีความเห็นขัดแย้งต่อประเด็นนี้ 

ทั้งนี้ แม้ฝ่ายสนับสนุน โดยเฉพาะรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดของ World Bank    มองว่าพลังงานนิวเคลียร์และก๊าซธรรมชาติเป็นทางเลือกสำคัญสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจ
ในประเทศที่กำลังพัฒนา แต่ฝ่ายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมยังคงกังวลว่า การสนับสนุนพลังงานดังกล่าวอาจส่งผลต่อการลงทุนในภาคพลังงานหมุนเวียนชนิดอื่นที่ยั่งยืนมากกว่า อย่างไรก็ตาม นายอาเจย์    เน้นย้ำว่า เป้าหมายของยุทธศาสตร์ใหม่คือการให้ประเทศต่าง ๆ มีความยืดหยุ่นในการจัดหาพลังงานเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามความเหมาะสม โดยเป็นแหล่งพลังงานที่มีต้นทุนต่ำ และเป็นอุปารรคต่อการเติบโตของพลังงานสะอาดในระยะยาว

โดย World Bank สนับสนุนให้แต่ละประเทศประเมินสัดส่วนของแหล่งพลังงานสำหรับการผลิตไฟฟ้าที่เหมาะสมกับบริบทของตนมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นพลังงานแสงอาทิตย์ ลม พลังน้ำ ความร้อนใต้พิภพ พลังงานจากมหาสมุทร ก๊าซธรรมชาติ รวมทั้งสนับสนุนการเลิกใช้โรงไฟฟ้าถ่านหิน การพัฒนาระบบสายส่ง และศึกษานวัตกรรมด้านพลังงานใหม่ ๆ เช่น การดักจับคาร์บอนด้วย ในส่วนของการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ World Bank ยินดีสนับสนุนการขยายอายุการใช้งานของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีอยู่เดิมและการพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องปฏิกรณ์ขนาดเล็ก โดยจะร่วมมือกับทบวงการปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) อย่างใกล้ชิดเพื่อส่งเสริมมาตรการด้านความปลอดภัย กฎระเบียบ และการป้องกันการแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์

แหล่งอ้างอิงของข่าว / อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:

World Bank to end ban on nuclear energy project, still dabating upstreram gas | Reuters