ประชุมสัมมนาย่อยเพื่อระดมความคิดเห็น (Focus Group) ด้านการค้าและการลงทุนด้านพลังงาน วันศุกร์ที่ 27 เมษายน 2561 เวลา 09.30 – 12.00 น. ณ ห้องเรอนัวร์ โนโวเทล สยามสแควร์ กรุงเทพฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมและเผยแพร่ข้อมูลองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบธุรกิจด้านพลังงานของไทย และองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ในการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลและยุทธศาสตร์ของกระทรวงพลังงาน ภายใต้นโยบาย Energy 4.0 รวมถึงสร้างเสริมและสนับสนุนลู่ทางการค้าการลงทุนในกิจการด้านพลังงานที่สำคัญทั้งในประเทศและต่างประเทศ อนึ่งเพื่อเป็นการแนะนำโครงการ รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ จากผู้ประกอบการด้านธุรกิจพลังงานในประเทศไทย ตลอดจนผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้และประสบการณ์ด้านธุรกิจพลังงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน
สรุปความคิดเห็นข้อเสนอแนะ
ให้ข้อเสนอแนะว่า ประเทศสิงคโปร์ น่าสนใจ เนื่องจากมีความชัดเจนทางด้านกฎหมาย ง่ายต่อการใช้ภาษาในการสื่อสาร สิงคโปร์ยังขาดพลังงาน และขาดบุคลากร
– ปาปัวนิวกินี น่าสนใจ มีทั้ง Solar พลังงานแสงแดด พลังงานลม ชีวมวล biomass พลังงานคลื่น แต่ขาดการเชื่อโยงกับภาครัฐ (ซึ่งประเทศนั้นกำลังจัดทำร่างแผนพัฒนาใหม่ ๆ หลายฉบับ ทำให้เป็นโอกาสที่ดี)
– ในส่วนของปัญหาการลงทุน อยากให้วิเคราะห์ปัญหาให้ชัดขึ้น โดยเน้นที่มาของปัญหาที่แท้จริงของประเทศนั้น ๆ เช่น กรณีกัมพูชา อุปทานพลังงานเยอะมากแต่ที่ขาดคือ Transmission line อัตราการเข้าถึงไฟไม่เพียงพอ
– เวียดนาม การลงทุนยังมีปัญหาและอุปสรรค ศักยภาพมี โอกาสมี แต่ยังขาดเรื่องการเข้าถึงวัฒนธรรม เห็นด้วยกับการเข้าไปลงทุนในเวียดนาม แต่มีความยากในการลงทุน ยังไม่มีกรณีที่ประสบ ความสำเร็จ ในส่วนขั้นตอนการทำโครงการผลิตไฟฟ้า ตามที่ อ.ปิติกล่าวมา ในขั้นตอนที่ 1-2 ส่วนใหญ่กลุ่มผู้ประกอบการทำมาตลอด อยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเป็นตัวกลางในจุดนี้เพื่อลดความซ้ำซ้อนและลดค่าใช้จ่ายแก่กลุ่มผู้ประกอบการ
– SMEs – Cluster ในสภาอุตฯ ทำข้อมูลเรื่องนี้ไว้เยอะมาก การทำ direct investment ถึงขั้นที่กลุ่มไหนเข้ามาเติมได้เลย เข้าไปถึงลงทุนได้เลย ไม่ต้องมาจับคู่ matching สามารถเข้าไปโดยทำเป็น Package ได้เลยภาครัฐยังสามารถประเมินผลได้ง่ายด้วย
– ด้านพลังงานทดแทนนั้น ประเทศไทยเป็นที่ยอมรับของประเทศเพื่อนบ้านอยู่แล้ว ถ้ามีภาครัฐมานำร่องช่วยผู้ประกอบการจะเป็นโอกาสที่ดีมาก
– ในภาพรวม อาเซียน 10 ประเทศ ด้านพลังงานทดแทนบ้านเราเป็น champ อยู่แล้ว ทางรัฐถ้าสามารถช่วยขอโควต้ากับประเทศเพื่อนบ้านจะช่วยได้มากขึ้น
– การใช้พลังงานมีหลายหมวดหลายมิติ โดยส่วนตัวจะศึกษาด้านยานยนต์ (พลังงานทดแทน)
– อยากให้เน้นหรือศึกษาให้ครอบคลุมทุกมิติ ดิน น้ำ ลม ไฟ ไม่ใช่เน้นเฉพาะไฟฟ้า เช่นพลังงานบนดิน (แก็สโซฮอล์ ไบโอดีเซล)
– อยากให้บริการปรับปรุงประสิทธิภาพของ Solar farm เข้าไปใน business matching คือไปขาย know how ทางด้าน preventive maintenance ไทยมีศักยภาพมากในด้านนี้ มีผู้เชียวชาญในด้านนี้
– แต่ถ้าลงทุนในกัมพูชามีทั้งปัญหาไฟฟ้า ,biomass ,Grid มีปัญหาหมดB2 น่าสนใจแต่ขอให้ตรวจสอบในประเทศกัมพูชามีนโยบายด้านนี้หรือไม่
– เวียดนามมีเศรษฐกิจโต มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง แต่มีความเสี่ยงเรื่องการโอนเงินกลับประเทศไทย ติดที่ตลาดเงินของประเทศเวียดนามมีปัญหามีศักยภาพไม่เพียงพอ ปิดความเสี่ยงของ Foreign Exchange ไม่ได้ เพราะอัตราแลกเปลี่ยนเงินดอง (ผันผวนมาก) เวียดนามเป็นผู้รับซื้อไฟฟ้าที่เครดิตไม่ดี มีโอกาสไม่จ่ายหรือจ่ายเงินล่าช้า ขอให้ดูด้านสถานะ กฎหมายมีแต่อาจจะบังคับใช้ไม่ได้
– กัมพูชาอย่างที่ทราบมีปัญหาเรื่องสายส่ง อยากให้ดูเรื่องความเสี่ยง ให้ดูนักลงลงทุนจากประเทศอื่นๆ ว่าปิดความเสียงกันอย่างไร
– ในเวียดนาม นักลงทุนไทยมี local partner แต่จะมีปัญหาด้านการหาแหล่งเงิน เพราะต้องถือหุ้นระดับสูง มีปัญหาเรื่องอัตราแลกเปลียนเงินด่อง แต่ตอนนี้ก็อยู่ในสถานะที่ stable ต้องมีวิธีการจัดหา financing มีบริษัทมาขอให้ธนาคารให้การสนับสนุนเงินทุน และบริษัทไทยที่มีศักยภาพก็ต้องมา Support เช่นกัน
– ในส่วนของเรื่องการประกันความเสี่ยง เน้นไปที่ความเสี่ยงทางการเมืองของแต่ละประเทศ บริษัทไทยไปลงทุนหลายรายแล้วพบปัญหา ขอให้ศึกษาเพิ่มเติมในเรื่อง โครงสร้างสัญญาซื้อขายในแต่ละประเทศในเชิงลึก ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในแต่ลประเภท ภาครัฐจะเจรจาอะไรได้บ้างที่จะเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุน bank ก็หาวิธีแก้ปัญหาให้กับนักลงทุนด้วย
– Changing law cost ทำอย่างไรถึงลดความเสียงได้ น่าสนใจ
– ด้านกฎหมายบังคับใช้อยู่ที่ใด ผลของอนุญาโตตุลาการอยู่ทางไหน อยากให้มีรายละเอียดทางนี้ หากเกิดมีข้อพาท
– มีบริษัทลูก EGATI ถือหุ้น 100%
– ในมุมมองต่างประเทศ กฟผ. ไปเองไม่ได้ต้องให้ EGATI ไป
– ปัญหาลงทุนในเวียดนามและกัมพูชไม่แตกต่างมาก เอกชนเข้าใจดี
– นักลงทุนประเทศพร้อมกว่าไทย เช่น จีนก็มีพร้อม กลับมามองไทย ภาครัฐสนับสนุนภาคเอกชนไทยได้เพียงพอหรือยัง
– กฟฝ. ก็มีสนับสนุนมากขึ้น มีเอกชนเข้ามาคุยหลายราย แต่ก็ยังน้อย
– ภาครัฐไทยยังไม่ได้ส่งเสริมเอกชนให้พอ
* ทำคู่มือให้ภาคเอกชน และทำให้ภาครัฐด้วยเพื่อให้เป็นคู่มือกับภาครัฐว่าต้องทำอย่างไรในการส่งเสริมการลงทุนเอกชน ขอให้ทำเพิ่มถ้าอยากเห็นคนไทยไปปักธง ภาครัฐมีมาตรการอะไรพอจะช่วยเหลือได้ เปรียบเทียบกับประเทศคู่แข่ง มาเลเซีย สิงคโปร์ ซึ่งมีมาตรการรองรับดีกว่าไทย
– อยากให้มองด้านอื่นเช่น พลังงานความร้อน พลังงานในภาคtransportation
– ด้านกฎหมายจะสามารถลดขั้นตอนในด้านพิธีศุลกากรได้อย่างไรกับประเทศเพื่อนบ้าน
– ฐานข้อมูลของผู้ผลิตและผู้ใช้อยากให้มีระบบจัดเก็บ เปรียบเทียบ เช่นจะไปซื้อไฟฟ้าในกัมพูชา จะไปหาได้จากที่ไหน
– ในฐานะที่ได้รับสิทธิเป็นประธานอาเซียนในปีหน้า ไทยควรแสดงบทบาท เสนอข้อคิดเห็นเพื่อส่งเสริมการผลักดันในการลงทุนด้านธุรกิจพลังงานได้อย่างไร
– ขอให้เพิ่มการศึกษาให้เพิ่มถึงด้านเชื้อเพลิงด้วย
– เชิญชวนมาลงทุนในไทยอย่างไร เพื่อยื่นโอกาสให้ partner SMEs ในไทยที่มีศักยภาพ