รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของแองโกลา เวรา ดาวส์ เดอ ซูซา เปิดเผยว่า รัฐบาลกำลังดำเนินการทดสอบภาวะวิกฤต (stress tests) เพื่อประเมินผลกระทบจากการลดลงของราคาน้ำมันต่อสถานะทางการเงินและการคลังของประเทศ และยอมรับว่ามีแนวโน้มที่แองโกลาจะขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)

ทั้งนี้ ประเทศแองโกลาได้ตั้งประมาณการงบประมาณปี 2568 บนสมมติฐานราคาน้ำมันที่ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ปัจจุบัน ราคาน้ำมันเบรนต์ได้ลดลงต่ำสุดในรอบสี่ปี โดยเหลือต่ำกว่า 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่งผลให้รัฐบาลต้องพิจารณามาตรการรับมือ รวมถึงอาจต้องชะลอการใช้จ่าย หรือจัดทำงบประมาณเพิ่มเติม หากราคาน้ำมันตกลงถึง 45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ปัจจุบัน รัฐบาลกำลังดำเนินมาตรการเพื่อลดผลกระทบจากราคาน้ำมันตกต่ำ อาทิ การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ การปรับปรุงการจัดเก็บภาษีและการบังคับใช้ภาษีทรัพย์สิน นอกจากนี้ แองโกลายังเผชิญแรงกดดันจากตลาดพันธบัตรโลก และได้ถูกเรียกหลักประกันเพิ่ม (margin call) โดยที่บริษัทหลักทรัพย์เรียกให้นำเงินสดมาวางเป็นหลักประกันเพิ่มเติมจากก้อนหนี้ที่มีอยู่ถึง 200 ล้านเหรียญ แลกกับมูลค่าหนี้ 1,000 ล้านเหรียญ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อนักลงทุน 

ทั้งนี้ การประมาณการที่ผ่านมาพบว่า แองโกลาจะสามารถชำระคืนหนี้เงินกู้ที่มีน้ำมันเป็นหลักประกันให้กับจีนได้เร็วกว่าแผนเดิมที่คาดการณ์ไว้ 2-3 ปี นอกจากนี้ แองโกลายังขอกู้เงินเพิ่มจากธนาคาร EXIM ของจีนสำหรับการพัฒนาโครงการต่าง ๆ เช่น ระบบอินเทอร์เน็ตในชนบท ซึ่งสถานะปัจจุบัน แองโกลายังคงต้องจับตาสถานการณืตลาดของโลกอย่างใกล้ชิด และอาจจะต้องชะลอการดำเนินการแผนงานต่างๆ ณ ตอนนี้ไปก่อน เพื่อประเมินสถานการณ์ใหม่ต่อไป

แหล่งอ้างอิงของข่าว / อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:

Angola more likely to tap IMF loan after oil price drop, finance minister says | Reuters